วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เรื่องแอบรักเพื่อนสนิท





แอบรักเพื่อนสนิท

  อบรักกับอกหักอะไรเจ็บมากกว่ากัน ? ฉันเคยคิดหนักกับคำถามเหล่านี้จนในที่สุดก็รู้แล้วล่ะว่าคำตอบคืออะไร หน้าตาอย่างฉันไม่จำเป็นต้องแอบรักใครด้วยซ้ำ ตากลมโต ขนตายาวเป็นแพ ริมฝีปากสีส้มอมชมพูบางๆกับผิวสีน้ำผึ้งของฉัน และชื่อที่เรียกสั้นๆว่า โบว์ ในความคิดของฉันฉันไม่เคยคิดจะแอบรักเพื่อนร่วมห้องด้วยซ้ำ ถ้าเราคบกันเพื่อในห้องก็ต้องล้อ แต่ถ้าเลิกกันล่ะความรู้สึกแบบเพื่อนร่วมห้องมันคงจะเรียกกลับมาไม่ได้อีกแล้ว เราจะวางตัวยังไง ยังจะกล้าคุยแบบเมื่อก่อนอีกหรือเปล่า ? แต่เขาคนนั้นก็ทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไป เขาก็จัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาพอดูได้ เพียงแต่เขาเป็นนักกีฬา ตัวสูง ผิวเกือบๆขาว แต่ถ้าดูรวมๆก็จัดอยู่ในเกณฑ์ขาว ไหล่กว้าง ด้วยเหตุนี้ถึงแม้เขาจะไม่หล่อมากนักก็ทำให้เขาเท่ห์และดูดีในสายตาของผู้หญิงหลายคน ยิ่งนิสัยเขาเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงทุกคน และมีหัวคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวแล้ว นี่แหละ สิ่งที่ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิด แต่เขาไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิงมากมายหรอกนะ ฉันเริ่มรู้สึกชอบเขาเมื่อตอนสอบวันสุดท้ายของ ม.1 ตอนนี้ก็ม.3แล้ว มันนานมากเลยใช่ไหมล่ะ ปกตินิสัยฉันจะเงียบๆไม่ค่อยชอบยิ้ม ถามคำตอบคำ วันนั้นตอนกินน้ำเขาเดินมาแย่งแก้วฉันแล้วก็ดื่มต่อ อ่านะ...ไม่รู้ฉันคิดเอาเองรึเปล่า นี่มันจูบทางอ้อมชัดๆ !! 

โบว์ ทำไมทำหน้าอย่างงั้นอ่ะ ไม่ยิ้มเลยเชื่อไหมล่ะเพราะคำพูดนี้ล่ะทำให้ฉันเปลี่ยนไป ตั้งแต่นั้นมาเมื่อฉันเจอใครก็จะยิ้มตลอด โดยเฉพาะเขาคนนั้น หรือ วิน นั่นเอง และฉันก็ปลื้มเขามากขึ้นจนถึงขั้นแอบรัก ก็เขานะ ถึงแม้จะเรียนไม่ค่อยเก่งแต่ก็ขยันเรียน มีน้ำใจ ผิดกับผู้ชายในห้องลิบลับเลย
โบว์ๆ สอบเลขหน่อยดิวินนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วกวักมือเรียกฉัน พอฉันเดินไปวินก็บอกให้นั่ง เห็นป่าวบอกแล้วว่าเป็นสุภาพบุรุษ อ่านะ...แล้วฉันก็เริ่มอธิบาย ประมาณ 5 ชาติหมอนั่นถึงจะเข้าใจ อธิบายเสร็จฉันก็จะลุกกลับ แต่หมอนั่นเรียกให้นั่งต่อ จะขอบคุณอะดิ อิอิ
โบว์เด็กใหม่ชื่อกิ๊ฟนิสัยเป็นยังไงอ่ะ
ชอบน้องเค้าอะดิรู้ไหมตอนนี้ฉันนะน้ำตาตกในนะ มันรู้สึกเจ็นในใจมากนะเมื่อคำตอบที่ได้คือ
ขอเบอร์ให้หน่อยดิ
โอ๊ย...มันไม่ให้เบอร์ใครหรอก กลัวใครจะเอาเบอร์มันไปเผยแพร่
เออๆงั้นไปเถอะ
วินฉันไม่รู้เลยว่านายคิดยังไง พอหันตรงโต๊ะนายทีไรก็จะเจอสายตาที่นายมองมาที่ฉันตลอด มีอะไรนายก็จะขอความช่วยเหลือจากฉันเสมอ วันนั้นฉันนั่งหลังห้องกับเพื่อนผู้ชาย นายก็พูดเปรยๆว่า เฮ้อ...ไปนั่งหลังห้องดีกว่าแล้วนายก็ฝึกดีดกีต้าร์เพลงที่ฉันชอบอีกด้วย วันเกิดเพื่อนนายฉันเอาของขวัญไปให้ทำไมนายยังมองตาขวางอีก ไหนจะเรื่องที่นายมายืนร้องเพลงข้างๆหูฉันอีกล่ะ แต่พอวันนี้เพื่อนล้อว่าเราเป็นแฟนกัน นายกลับทำตัวไม่เหมือนเดิม การบ้านนายทำไม่ได้นายกลับไม่ถามฉัน แต่กลับถาม ชะเอม เพื่อนซี้ฉันเอง แล้วก็ชอบเรียก
เอมๆมานี่หน่อยดิแล้วเธอ 2 คนก็นั่งร้องเพลงกันไปไหนเดี๋ยวนี้ก็จะไปด้วยกัน แต่ก็ช่างเถอะเราอ่ะคิดมากไปเอง เอมมันเพื่อนซี้นะโว้ย...มันรู้อยู่หรอกว่าเราชอบวิน อีกอย่างวินนะมันชอบกิ๊ฟอยู่แล้ว ไหนจะเตยแฟนมันอีก แต่ก็เลิกกันแล้วนี่นา คงจะเป็นรักฝังใจมั้ง เพราะเอมเคยพูดชื่อเตยออกมา วินถึงกับจะต่อยเอม นี่ถ้าผู้ชายในห้องไม่ห้ามไว้ป่านนี้วินคงโดนเพื่อนในห้องรุมด่าว่า หน้าตัวเมียแล้วล่ะมั้ง
พอนึกถึงภาพ ที่เอมกับวินนั่งด้วยกัน เล่นด้วยกัน แตะเนื้อต้องตัวกัน จนบางครั้งถึงกับกอดน้ำตาก็ไหลออกมา เรารึอุตสาห์หาหนังสือธรรมมะมาอ่าน ตอนแรกๆก็ดีอยู่หรอกแต่พออ่านหนังสือไปภาพเหล่านั้นก็แวบขึ้นในหัว น้ำตาก็ไหลพรากออกมา เฮ้อ!!!อยากจะบ้าตายเคยคิดเหมือนกันนะว่าจะตัดใจ เพราะเฝ้าทุ่มเทเท่าไหร่ พยายามเสนอว่าตัวเองดีเท่าไหร่ แต่ผลสุดท้ายคนที่วินเห็นค่าก็ไม่ใช่เราอยู่ดี เอาหละตัดใจๆท่องไว้
อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาวันนี้พี่มาส่ง พอดีกับที่วินมา วินก็จ้องหน้าพี่บอลใหญ่เลย แล้วพี่บอลก็มองตอบ ประมาณว่า มองทำไมด้วยความที่ท่อรถพี่แต่งมาพอบิดเสียงก็จะดังๆ พี่ก็บิดรถไป 2 ที่ก่อนจะพุ่งออกไป
พอพักกลางวันวินก็เรียกฉันไปหา ฉันก็รีบกินข้าวแล้วไปหามันที่นั่งอยู่กับเพื่อนๆที่ม้าหินอ่อน
เรียกมามีอะไร
คนเมื่อเช้ามันเป็นใครวินพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว
พี่ชายเค้าเอง มีไรอีกป่ะ
แมร่งกวนตีนกรูไปเรียกมันมากราบตรีนกรูเดี๋ยวนี้เลย
จะบ้าหรือไงวิน นายรู้จักพี่ชายฉันน้อยไปแล้ว ขนาดหัวหน้าแก๊งค์ใกล้รุ่ง ที่คุม โรงเรียนนี้กับเทพอักษร ยังโค่นมาแล้วเลย ไหนจะคุมปากทางเข้าซอย 1-16 อีก นี่ไม่ได้เวอร์นะมันเป้นเรื่องจริง เรารึก็เป็นห่วงเลยเตือนไปว่า
วินอย่าเลยพี่เรามันไม่มีอะไรหรอก
ไม่มีอะไรแล้วทำไมมันมองหน้าแล้วยังบิดรถใส่กรูอีก
อย่ามีเรื่องเลยนะวิน...ขอร้อง
โบว์เมิงรู้ฤทธิ์วินน้อยเกินไปคิวเพื่อนสนิทของวินพูดพร้อมยักคิ้วประมาณว่าวินเก่ง
โทรไปบอกมันว่าเลิกเรียนเจอกัน
วินจ๋า...พี่เราอ่ะไปทำท่อมามันเลยดังเขาบอกว่าน้ำเย็นปลาตายใช่ป่ะ
กรูไม่สนแค่เรียกมันมาขอโทษแล้วกราบตีนกรูเท่านั้นพอ เออแล้วบอกมันด้วยอย่าผ่าน ซอย 5-9 ล่ะไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน
วินหนอวิน พี่ชายแกที่คุม ซอย 5-9 นะมันเพื่อนพี่ชั้น คนในแก๊งค์จะมาต่อยกันเองเพราะแกนะเหรอตลกดีว่ะ ทางที่ดีอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ดีกว่า ถ้าสู้กันแล้วแกชนะมันก็คุ้มกับการเจ็บตัว แต่ถ้าแพ้ล่ะนายอาจเข้าโรงบาลได้นะ
แค่ขอโทษได้ป่ะแต่ไม่ต้องถึงขั้นกงขั้นกราบอะไรนั่นหรอก
แล้วพวกนั้นก็ทำท่าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตอบว่า
เออแต่ทางโทรศัพท์ไม่เอา
ฉันอุตสาห์เตือนนายแล้วนะวิน ฟันแข็งแรงนักนี่ แบบนี้มันต้องเจอของจริงจะได้หายซ่า รู้อะไรไหม วินตอนนี้ฉันอยากเห็นนายเข้าเฝือกจะแย่อยู่แล้ว
ฉันก็เลยจัดการกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนแถวบ้านแล้วให้ปลอมเป็นพี่บอลยังไงซะฉันคือคนที่ลำบากใจที่สุด ถ้าวินชนะฉันจะสู้หน้าพี่ได้ไง แล้วถ้าพี่ชนะมาโรงเรียนฉันไม่โดนพวกวินยำเอาเหรอ ฉันเลยขอร้องเพื่อนให้ช่วยขอโทษให้หน่อย
พอคุยกันไปซักพักเรื่องราวก็จบลงด้วยดี
ช่างนี้เป็นหน้าฝน ฝนก็เลยตกยิ่งมีพายุเข้าด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่เลย
ออกมายืนทำไมเข้าไปในห้องดิเสียงวินตะโกนออกมาเรียกเพื่อนๆที่วิ่งวุ่นออกไปเล่นน้ำฝนให้กลับเข้ามาเพราะเกรงว่าจะโดนครูด่า...ได้ผลเพื่อนวิ่งเข้ามาไม่มีใครกล้าค้าน
เปรี้ยง !!!!!!!!!!!!!เสียงฟ้าผ่าที่รุนแรงทำให้เอมซึ่งอยู่ใกล้วินเผลอกอดวินอย่างไม่รู้ตัว ฉันซึ่งดูอยู่ห่างๆก็คงต้องเบือนหน้าหนีเพราะหากว่าน้ำตามันไหลตอนนี้ล่ะก็คงไม่ดีแน่ๆ แล้วฉันก็รีบเดินไปปิดหน้าต่าง
ลมมันช่างพัดมาแรงเหลือเกินนะเล่นเอาน้ำตาที่คลออยู่เหือดแห้งไปเลย น้ำตาหายไปแต่ความหนาวแทรกเข้ามาแทนถ้าได้กอดผู้ชายไหล่กว้างๆอย่างวินคงหายหนาวไปเลยมั้งเนี่ย
อยากหนาวตายหรือไงวินพลักฉันให้ไปอยู่ด้านหลังเขา แล้วเขาก็เอื้อมมือปิดหน้าต่าง จากนั้นเขาหันมาและไฟก็ดับลง
ความโกลาหลก็เกิดขึ้นทั้งอาคารเรียน เสียงที่ดังแซ่เซงของนักเรียนที่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์เมื่อกี้ก็ค่อยเบาลงเมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ที่เดินเข้ามาพลางเคาะประตูแต่ล่ะห้องให้เงียบๆ
ฉันที่ยืนหนาวสั่นเพราะเป็นผู้หญิงที่สูงแต่ร่างบาง จนบางครั้งคนอื่นอาจมองว่าเก้งก้างด้วยซ้ำไป
หนาวเหรอวินก้มหน้าลงมาถามฉัน
ฉันไม่ได้ให้คำตอบอะไรไปแต่เป็นการพยักหน้าเบาๆ ด้วยความที่ฉันเป็นคนหน้าตายหรือชอบฉวยโอกาสก็ไม่รู้เลยพูดเปรยๆขึ้นว่า
ขอกอดหน่อยดิ
บ้าหรือเปล่า...เป็นผู้หญิงพูดจาอย่างนั้นได้ยังไงวินพูดพร้อมส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาเพื่อนๆของเขา
ซึ่งพอมองเลือนๆก็จะเห็นคิวกอดอยู่กับเอม คิวฉันจะไปบอกแฟนแกว่าแกนอกใจ แล้วนั่นใครนะรู้สึกว่าเต้นายกอดกับคนในกลุ่มฉันอีกแล้วนะ เกม แฟนแกที่อยู่กรุงเทพจะรู้ไหมหนอว่าแกคว้าอรมาซบไหล่อยู่นะ ผู้หญิงในกลุ่มฉันกับกลุ่มวินจับคู่จะสมสู่กันแล้วหรือนี่
ซักพักวินก็เดินกลับมา แล้วพูดว่า
เรามาทำอย่างนั้นบ้างดีป่ะ
เกินจริง...
แล้วฉันก็นั่งลงบนพื้นหลังห้องเพราะพื้นที่มันเยอะและเตรียมเอากระเป๋ามาเป็นหมอน วินก็เดินนั่งตามและเขาก็เอนหัวลงมาบนตักฉันและหลับตาลง
แต่เวลาแห่งความสุขก็มักมีได้ไม่นานนัก ครึ่งชั่วโมงต่อมาไฟก็กลับมาดั่งเดิมและฉันก็ต้องปลุกวินให้ตื่นจากนิทราที่แสนจะสุขสบายกายของเขาแต่ทรมาณกายของฉัน
ใกล้งานวันวิชาการ...พวกเราก็คงต้องจัดการแสดงละครเพราะอยู่ห้องศิลป์ แต่ต้องเป็นละครภาษาอังกฤษทั้งเรื่อง พวกเราในห้องเลยจัดการประชุมว่าจะเอาเรื่องอะไรและคัดตัวนักแสดงละคร ผลสุดท้ายเราก็ได้เรื่องซินเดอเลร่า อรกับเอมเสนอชื่อวินเป็นพระเอกและเราก็เป็นนางเอกซึ่งเพื่อนทั้งห้องก็ตกลงเพราะดีกว่าตัวเองได้รับบทไง...ประเสริฐไหมเพื่อนห้องนี้
เราก็ซ้อมกันทุกวันแต่บทเจ้าชายกับทหารเนี่ยไม่ค่อยมีหรอกแต่บทเรานี่ซิ...แล้วฉากที่ฉันรอคอยก็มาถึง หุหุ จะได้เต้นรำกับเจ้าชายแล้ว
แต่มันไม่เป็นดังคาด กิ๊ฟมาดูพวกเราซ้อม ซึ่งทำให้เจ้าชายของเราเขิลลลลลลลล
วินซ้อมดีๆได้ป่ะแกเหยียบตีนฉันจนระบมหมดแล้ว
เออๆขอโทษแล้ววินก็ซ้อมต่อแต่ก็ยังคงพลาดเหมือนเดิม
และคนก็ยิ่งทยอยมา ซึ่งพวกเราทั้งหมดก็พากันเขิน คงยกเว้นฉันเพียงคนเดียวล่ะมั้งที่ตอนนี้จริงจังอยู่คนเดียว
ซ้อมเมื่อไหร่เรียกด้วยล่ะฉันพูดแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าจากนั้นก็เดินออกไปอย่างวางมาด ฉันจึงเลือกที่จะไปห้องสมุดแล้วหาหนังสือสงบสติอารมณ์ อีกไม่ถึง 5 วันด้วยซ้ำอ่ะก็จะแสดงแล้วนี่ไม่ตั้งใจกันเลย ถ้าคนแค่นี้ยังเขินแล้วคิดดูดิ คนอีกทั้งโรงเรียนไหนจะผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนโรงเรียนอื่นอีกอ่ะ มันไม่ล่มเหรอ
วันต่อมาดูเหมือนเพื่อนๆจะไม่เขินแล้ว แต่บทยังไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ โดยเฉพาะเจ้าชายของเราเนี่ยซิ ก็แค่พูดว่า “Marry whit me….” (แต่งงานกับข้านะ) มันจะตะกุกตะกักอะไรหนักหนา
แล้ววันจริงก็มาถึง กรี๊ดดดดดดดด...วินหล่อมั๊กๆ ใส่ชุดแบบเข้าชาย เสื้อสูทสีขาว อินธนูมีน้ำเงินสายที่ห้อยลงมาจากอินธนูสีเหลือง ทรงผมที่ใส่เจลกากเพชรและใบหน้าที่นิ่งกับนัยน์ตาเย็นชาคู่นั้น สมแล้วกับเจ้าชายผู้สูงส่ง
ส่วนฉันนะเหรออิอิ เหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายกรีก-โรมัน ทรงผมที่ม้วนเป็นลอนๆแล้วรวมไว้ข้างเดียวกันมีมงกุฎเล็กๆประดับศรีษะ กับสร้อยคอมุกสีขาวนวลมันช่างเข้ากับชุดฟูฟ่องดุจเจ้าสาวสีขาวบริสุทธ์และขอบริบบิ้นสีชมพูอ่อนๆ
จากนั้นการแสดงก็เป็นไปได้ด้วยดีจนถึงฉากที่ต้องเต้นรำกับเจ้าชาย ตอนแรกเจ้าชายจะต้องพูดว่า
‘Dance whit me…’
แต่เพอิญว่าฉันสะดุดส้นสูงล้ม ทุกคนบนเวทีหน้าเสียหมด วินเลยเดินมาดนิ่งมาทางฉันและนั่งยองๆขุกเข้าลงอีกข้างพลางเงยหน้าและเอื้อมมือค้างไว้ และพูดว่า
“Dance whit me…”
แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มเมื่อฉันยื่นมือไปทาบลงบนมือเจ้าชาย ไฟทุกดวงค่อยๆหรี่ลงเหลือเพียงสปอท์ไลท์นั้นที่ส่องมาทางเรา บทเพลงเริ่มบรรเลงขึ้น ท้าวของฉันค่อยๆขยับตามจังหวะช้าๆ ตอนนี้ทุกอย่างดูเกรงๆไปหมด ก็ตอนที่ซ้อมเต้นรำนะเราได้จับไม้จับมือกันที่ไหนมีแต่เท้าเท่านั้นแหละ แล้วฉันเลยตัดสินใจเอามือข้างหนึ่งเกาะไหล่วินไว้ แล้ววินก็เลยยื่นมือที่สั่นๆของเขามาเกาะเอวที่ฉันไว้เบาๆก่อนจะคว้ามือฉันอีกข้างหนึ่งสอดประสานกับมือเขาไว้ ฝ่ายทีมงานก็เริ่มๆโปรยปรายละอองกากเพชรลงมา เมื่อครบเวลา 3 นาทีก็ได้ถึงเวลาเที่ยงคืน เป็นอันว่าปิดฉากการเต้นรำที่น่าจดจำสำหรับฉัน...
หลังจากนั้นมาเพื่อนก็จะล้อว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ต่างฝ่ายก็ต่างปฏิเสธ จนคนอื่นเริ่มเบื่อที่จะล้อแล้ว
วันนี้ฉันยังคงเดินตากฝนเพื่อจะกลับบ้าน หวัดนะเหรอไม่กลัวหรอก กลัวแค่ว่าต่อจากนี้จะทำยังไงเท่านั้นเอง เมื่อฉันนึกถึง 2 ชั่วโมงที่แล้ว
วันนี้เป็นวันเลี้ยงอำลาของม.3 ของห้องฉัน โรงเรียนฉันมีแค่ระดับชั้นม.3 งานเริ่มตอน 1 ทุ่ม ฉันก็เข้าตามงานปกติแต่เพียงวันนี้รอคอยใครบางคนเป็นพิเศษเพราะตัดสินใจแล้วล่ะ ความรู้สึกที่มีอยู่มันเก็บไว้ไม่ไหวแล้ว ยังไงซะก็จะบอกให้ได้...ฉันก็เลือกๆอาหารมากิน แล้วก็นั่งที่มุมห้อง พอกินไปได้ซักพักสปอร์ทไลท์ก็ส่องมาที่ฉัน อีกดวงก็ที่วิน และเสียงดีเจซึ่งรับบทโดยเต้ก็พูดขึ้นมาว่า
เจ้าชายกับซินเดอเลร่าไม่คิดจะเต้นรำกันหน่อยเหรอ
แล้วบทเพลงก็บรรเลงขึ้น วินค่อยๆเอามือมาเกาะเอวฉันและประครองฉันอย่างแผ่วเบา นี่คงเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะได้อยู่ใกล้วินแล้วซินะ อยากจะมีความทรงจำกับนายนานๆทำไมเวลาใจร้ายกับฉันจังนะ
ไม่นานนักบทเพลงก็จบลง ฉันเลยเอ่ยเรียกวินไว้
วินมีเรื่องจะคุยด้วย
เราเลือกที่จะคุยที่ซอกทางเดินเข้าห้องน้ำซึ่งมันไม่ค่อยมีใครผ่านมานัก
วินมีอะไรจะบอกก่อนที่เราจะจากกัน
ทำไมจะสารภาพรักเหรอ
อืม
เฮ้ย!!!!!!!!!ไม่จริงม้างงงง
จริง
เป็นผู้หญิงจะมาสารภาพรักกับผู้ชายบ้าหรือเปล่า
ก็แค่อยากบอกก่อนจากกันก็แค่นั้น
เหรอเราก็ชอบเธอนะ...แต่ในฐานะเพื่อนนะ ขอบคุณในความรู้สึกดีๆที่มีให้แต่เรามีแฟนอยู่แล้ว
วินทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินจากไป ทิ้งให้ฉันยืนอึ้งอยู่คนเดียว
ฉันคงไม่มีหน้าจะอยู่งานต่อแล้วล่ะเลยเดินออกจากงานไปแล้วเรียกแท็กซี่ออกมา ฉันนั่งรถไปมองฝนที่ตกลงมาจากหน้าต่างกระจกใส น้ำตาฉันไหลมาพร้อมสายฝน คำถามที่ว่าแอบรักกับอกหักอะไรเจ็บมากกว่ากันตอนนี้รู้แล้วล่ะ มันเจ็บพอๆกันนะและเจ็บมากด้วย พอรถถึงบ้านฉันเตรียมจะควักตังค์จ่ายแต่กระเป๋าตังค์ดันหายเลยต้องนั่งแท็กซี่กลับไปที่งานเพื่อหากระเป๋าตังค์
ฉันเดินหาทั่วงานแล้วไม่เจอเลยลองเดินไปที่ซอกตรงทางเข้าห้องน้ำและในมุมมืดๆนั้นมีเงาของคน 2 คน คุยกันอยู่แม้เสียงจะแผ่วเบาแต่ก็สามารถทำให้ฉันได้ยินได้ชัดเจนและทุกถ้อยคำ
วินบอกไปหรือเปล่าว่าเราคบกันอยู่เสียงเล็กใสๆของคนที่ฉันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน
เปล่า ทำไมกลัวเพื่อนเอมโกรธเหรอ
ก็...ก็....
เราคบกันมาก่อนที่โบว์จะบอกว่าชอบวินซะอีก
มันก็จริงแต่ว่า...โบว์เป็นเพื่อนเอมนะ
แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่าเอมคบกับวินอยู่
ก็วันนั้นกะจะบอกอยู่แต่โบว์พูดขึ้นมาก่อนนี่นา
ไม่ต้องเครียดเรื่องนี้เอมไม่ผิด
สรุปว่าฉันผิดเหรอ ? เรื่องที่ผ่านมาฉันผิดเหรอ? นั่นซินะฉันแอบรักแฟนเพื่อนหนิ...ทำไมจะไม่ผิดล่ะ ฉันต้องทำให้เอมลำบากใจ...ฉัน........ฉัน
ฉันรีบวิ่งออกไปจากงานวิ่งผ่านสายฝน หวังเล็กๆว่าสายฝนเหล่านี้ จะช่วยล้างคำพูดพวกเมื่อกี้ ล้างความทรงจำทั้งหมดออกจากใจ
ฉันแบบมือและเงยหน้าขึ้นรองรับสายฝนที่เทหนักลงมาเรื่อยๆ แล้วร่มสีใสก็ถูกกางขึ้นมาและบังสายฝนไม่ให้โดนตัวฉัน
ไม่มีค่ารถกลับบ้านล่ะซิเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น
“...”
ฉันไม่ตอบอะไรแต่กลับมองสายฝนที่ตกลงมา
กระเป๋าตังค์วินฝากมาคืน
“...”
ฉันยังคงไม่พูดอะไรทั้งนั้นแต่รับกระเป๋าตังค์มาแต่โดยดี
เลิกชอบมันเมื่อไหร่ก็มาหาเราได้นะ
เต้....น้ำตาของฉันไหลอีกครั้งหนึ่งแต่ดึงฉันมากอดปลอบไว้...แต่ความรู้สึกอย่างนี้นะมันยกกันให้ง่ายๆไม่ได้หรอกนะ....จะให้เต้เป็นตัวแทนของวินนะเหรอ...ฉันทำไม่ได้หรอก ขอโทษนะเต้...แต่ตอนนี้ใจของฉันให้วินไปหมดแล้ว...นายน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ...และถึงแม้นายจะดีกับฉันยังไง...แต่ฉันก็รักวิน...และยังคงไม่ลืม...รักแรกของฉัน...ถึงแม้คำว่ารักกันจะมีเพียงแค่ความฝันของฉันคนเดียว

ถ้าชาติหน้ามีจริง
ฉันมีพรให้สามารถเกิดเป็นอวัยวะส่วน
ใดส่วนหนึ่งในร่ายกายของนาย...วิน
ฉันขอเป็นหัวใจ
เพราะถ้าเป็นเพียงแค่ขนตา
.
แม้จะใกล้ตานายเท่าไหร่ก็ไม่มีวันมองเห็น

[
จบ ]

1 ความคิดเห็น:

  1. The Casino at Borgata | Hours, Takes, Takes & Reviews
    The Borgata offers 김천 출장안마 a convenient way to travel from Atlantic City to Atlantic City. 과천 출장샵 From 서울특별 출장안마 restaurants to popular shows, 인천광역 출장마사지 to concerts and more. From the 삼척 출장마사지

    ตอบลบ